![](http://isr.spoc.rtaf.mi.th/wp-content/uploads/2022/03/20220324b-2.jpg)
จากคำแถลงการณ์ขององค์การอวกาศแห่งชาติของประเทศอเมริกา หรือ National Aeronautics and Space Administration (NASA) เมื่อ 23 มี.ค.65 ว่าด้วยการสนับสนุนการพัฒนายานจอดดวงจันทร์ลำที่สองสำหรับการขนส่งนักบินอวกาศ ไปและกลับจากพื้นผิวดวงจันทร์ เพื่อให้เกิดการแข่งขันกับ SpaceX สำหรับการพัฒนาภายโปรแกรม Artemis ในเฟสของการทำให้ยั่งยืนหรือที่เรียกว่า “Sustaining Lunar Development”
Sustaining Lunar Development จะดำเนินการพัฒนาส่วนของยานจอดลำที่สองโดยแยกจากโครงการ Human Landing System หรือ HLS ที่มีอยู่เดิม ในส่วนของสัญญานี้ประกอบด้วยการสร้างระบบสาธิตการลงจอดทั้งแบบมีและไม่มีผู้บังคับ เช่นเดียวกับ HLS Option A ที่ SpaceX เป็นผู้ชนะการแข่งขัน เมื่อ เม.ย.64 ที่ผ่านมา
การหาคู่สัญญาภายใต้ Sustaining Lunar Development ตั้งใจเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมี 2 บริษัทที่สามารถแข่งขันเพื่อได้สัญญาบริการใช้ช่วงท้ายสำหรับภารกิจการลงจอดของโปรแกรม Artemis เป็นการแข่งขันที่หลายฝ่ายในสภาคองเกรสได้วิ่งเต้นให้ NASA จัดหาหลังจากสัญญา Option A มอบให้กับ SpaceX เรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่แตกต่างของโปรแกรม Sustaining Lunar Development ก็คือ ยานลงจอดจะต้องถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า HLS ซึ่งรวมถึงขีดความสามารถของขนส่งนักบินอวกาศได้มากกว่า ตลอดจนการขนส่งสิ่งของไปยังพื้นผิวจันทร์ให้มากขึ้นเพื่อให้สามารถอยู่ดำรงชีวิตได้นานขึ้น
SpaceX จะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันสำหรับสัญญา Sustaining Lunar Development นี้ อย่างไรก็ตาม NASA มีแผนที่จะใช้ข้อกำหนด HLS ที่เรียกว่า Option B เป็นการให้ทุนในการพัฒนาการปรับเปลี่ยนของยานอวกาศ Starship ของ SpaceX เพื่อรองรับรายละเอียดต้องการใหม่และสร้างยานสาธิตยานลงจอดโดยมีผู้บังคับครั้งที่สอง
NASA เผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจชะลอการเปิดแข่งขันประมูลครั้งที่สอง ไม่ใช่แสดงถึงการลดความเชื่อมั่นกับ SpaceX สำหรับการพัฒนา HLS แต่หากมองไปไกลกว่า Artemis 3 เราต้องการเพิ่มการแข่งขันและขีดความสามารถในการรองรับทางวิทยาศาสตร์และการสำรวจที่มากขึ้น รวมถึงการเปิดตลาดสำหรับภารกิจดวงจันทร์
การดำเนินการ Sustaining Lunar Development จะเป็นส่วนของโปรแกรม HLS ในองค์รวม ซึ่งจะดำเนินการคู่ขนานระหว่าง HLS Option A และ Option B ตลอดจนโครงการ Sustaining Lunar Development ด้วย สัญญาใหม่จะเป็นแบบ Fixed-price ลำดับการดำเนินการจะเหมือนสัญญา HLS เดิม และจะมีรายละเอียดความต้องการเหมือนกับ Option B
ยานจอดลำที่สองนี้อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าโปรแกรม HLS Option A ที่มีค่าใช้ในสัญญาจ่ายราว 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ การประมูลเดิมบริษัทที่สองที่ราคาสูกว่าคือ Blue Origin ที่ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนรายที่สามคือ Dynetics ให้ราคาสูงกว่านั้น ทั้งนี้อาจเนื่องจาก Option A ยานจอดมีขีดความสามารถที่น้อยกว่า และราคาต่ำกว่าส่วนของยานจอดที่จะใช้ในโครงการ Sustaining Lunar Development นั้นเอง
ที่มา https://spacenews.com/nasa-to-support-development-of-second-artemis-lunar-lander/
แปลและเรียบเรียงโดย จ.อ.ธวัชชัย หันจันทร์