![](http://isr.spoc.rtaf.mi.th/wp-content/uploads/2021/07/faa.jpg)
หลังจาก Virgin Galactic และ Blue Origin ได้นำส่งเที่ยวบินโดยสารสู่อวกาศเต็มรูปแบบครั้งแรกแล้ว องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ Federal Aviation Administration (FAA) ได้ตระหนักถึงการเติบโตของธุรกิจนี้ในอนาคต จึงเปิดศูนย์ติดตามใน Houston โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อตรวจสอบ และติดตามอวกาศยานเชิงพาณิชย์ที่ถูกนำส่งจากพื้นที่ Texas และ New Mexico
ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา การติดตามและควบคุมการจราจรทางอากาศทั่วโลกมีความซับซ้อนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เครือข่ายเรดาร์และศูนย์ควบคุมระดับชาติที่เชื่อมต่อถึงกันได้รับการออกแบบเพื่อจัดการกับเครื่องบินที่บินที่มีความเร็วต่ำกว่าเสียง และระดับความสูงปกติ แต่เมื่อมีจรวดที่มุ่งหน้าออกสู่อวกาศในระดับ suborbital หรือ orbital ระบบจึงต้องได้รับการปรับปรุง
เพื่อจัดการกับการดำเนินการท่องเที่ยวในอวกาศเชิงพาณิชย์ของ SpaceX, Virgin Galactic และ Blue Origin รวมถึงโครงการทดสอบเชิงพาณิชย์ Office of Commercial Space Transportation ของ FAA จึงเปิดหน่วยงาน Office of Spaceports แห่งใหม่ และเพิ่มเจ้าหน้าที่เพื่อจัดการกับการจราจรในอวกาศ ในปีนี้หน่วยงานคาดการณ์ว่าจะสามารถออกใบอนุญาตได้กว่า 70 ใบ สำหรับการนำส่งและการนำกลับของอวกาศยานเชิงพาณิชย์เหล่านี้
นอกเหนือจากการเปิดหน่วยงานแล้ว FAA เอง ก็เปิดตัวระบบ Space Data Integrator (SDI) ที่จะรวมการติดตามอวกาศยาน เข้ากับระบบควบคุมการจราจรทางอากาศของประเทศ ระบบ SDI จะรับและแจกจ่ายข้อมูลการนำส่งและการนำกลับไปยังเครือข่ายระบบบริหารจัดการจราจรทางอากาศในแบบเรียลไทม์ ซึ่งแต่เดิมจะดำเนินการแจ้งปิดหรือเปิดการจราจรทางอากาศผ่านทาง Air Traffic Organization Space Operations team ของ FAA ในรัฐ Virginia ดังนั้นการใช้ระบบ SDI จึงทำให้ FAA สามารถติดตามตำแหน่งของอวกาศยาน ความสูง และความเร็ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ควบคุมและผู้วางแผนภารกิจ สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้เร็วขึ้น และเปิดการจราจรทางอากาศให้กลับเข้าสู่ปกติโดยเร็วที่สุด
ที่มา : https://newatlas.com/space/us-faa-air-traffic-control-space-tourism/
แปลและเรียบเรียง : ricebird572