![](http://isr.spoc.rtaf.mi.th/wp-content/uploads/2021/05/20210518-1.png)
สำนักงานใหญ่ศูนย์อวกาศและระบบขีปนาวุธที่ฐานทัพอากาศลอสแองเจลิสแคลิฟอร์เนีย
รูปภาพโดย : US Space Force
กองทัพอวกาศสหรัฐวางแผนที่จะใช้จ่ายงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้าเพื่อแปลงข้อมูลจำนวนมหาศาลที่อยู่ในระบบซึ่งแยกต่างหากให้เป็นสถาปัตยกรรมองค์กรดิจิทัล โดนในขณะนี้ข้อมูลถูกเก็บไว้ใน ไซโลที่ไม่ได้เชื่อมต่อ และเป็นการยากที่จะวิเคราะห์และทำความเข้าใจกับมัน
พ.อ.หญิง เจนนิเฟอร์ โครลิโควสกี หัวหน้าหน่วยงานอาวุโสด้านการบัญชาการและควบคุมอวกาศที่ศูนย์อวกาศและระบบขีปนาวุธ ได้กล่าวถึงความจำเป็นที่ต้องนำโดเมนอวกาศที่มีข้อมูลมากมายมาทำการตัดสินใจ
Space Force จะดำเนินกลยุทธ์การจัดการข้อมูลที่เรียกว่า “data as a service” เพื่อรวมข้อมูลไว้ในแพลตฟอร์มคลาวด์เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์และส่งถึงผู้ใช้ได้เร็วกว่าการดำเนินการด้วยตนเองในปัจจุบัน ยกตัวอย่าง การปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงานที่ตรวจสอบและติดตามวัตถุในวงโคจร ของกองทัพอวกาศฯ เช่น ต้องไปแยกชุดข้อมูลข้อมูลและจัดระเบียบด้วยตนเองในสเปรดชีต Excel ข้อมูลเป็น
การบริการที่ทำให้กระบวนการทั้งหมดนั้นเป็นไปโดยอัตโนมัติ
เมื่อเดือนที่แล้วศูนย์อวกาศและระบบขีปนาวุธซึ่งเป็นหน่วยงานจัดซื้อของ Space Force ได้รับสัญญา Palantir มูลค่า 32.5 ล้านดอลลาร์ สำหรับ data as a service บริษัทจะรวมข้อมูลที่ใช้โดย Space Force กองทัพอากาศและหน่วยบัญชาการป้องกันการบินและอวกาศของอเมริกาเหนือ โดยพ.อ.หญิง โครลิโควสกี ได้กล่าวว่าในปัจจุบันการทำเช่นนั้นต้องทำให้ข้อมูลเป็นอิสระและตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้อยู่ในที่จัดเก็บจากเจ้าของข้อมูลที่แตกต่างกัน
ในเดือนเมษายน 2020 บริษัท Palantir ได้รับสัญญามูลค่า 10 ล้านดอลลาร์จาก Space Enterprise Consortium ของ SMC เพื่อพัฒนาเครื่องมือ data-as-a-service Palantir ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการจัดระเบียบไฟล์สเปรดชีตอีเมลเอกสารรูปภาพวิดีโอและข้อมูลอื่น ๆ ที่มักจะอยู่ในท่อที่ไม่ได้เชื่อมต่อ
ปัญหาสำคัญบางประการที่ Space Force ต้องแก้ไข เช่นการรับรองความปลอดภัยในการบินในอวกาศและการปกป้องดาวเทียมจากภัยคุกคามในวงโคจร จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลจากหลายแหล่งภายใต้สัญญาของ Palantir สำหรับข้อมูลเป็นบริการ ตัวอย่างเช่นเจ้าหน้าที่ของ Space Force จะสามารถเข้าถึงแดชบอร์ดที่แสดงตำแหน่งของดาวเทียมและวัตถุอื่น ๆ ในวงโคจรรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของดาวเทียมผู้ที่เปิดใช้งานใครเป็นผู้ควบคุม เป็นต้น ซึ่งแผนการเพิ่มการใช้ข้อมูลเป็นบริการที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ Space Force ในการเป็นองค์กรที่เน้นเทคโนโลยีโดยที่ข้อมูลถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์
ทั้งนี้ ระบบอัตโนมัติและการเรียนรู้ของเครื่องมือจะมีความสำคัญเป็นพิเศษ เอกสารวิสัยทัศน์ของ Space Force กล่าวเกี่ยวกับการเป็นบริการดิจิทัลซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมเพื่อปกป้องทรัพย์สินอวกาศจาก
ภัยคุกคามโดยเอกสารระบุว่า “ต้องใช้ภาพการดำเนินงานที่ซับซ้อนและมีข้อมูลซึ่งผู้ใช้กำหนดเอง สามารถหลอมรวมและนำเสนอข้อมูลอัจฉริยะแบบหลายแหล่งได้”
“ระบบอัตโนมัติและการเรียนรู้ของเครื่องมือจะมีความสำคัญเป็นพิเศษ” เอกสารวิสัยทัศน์ของ Space Force กล่าวเกี่ยวกับการเป็นบริการดิจิทัลซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม เพื่อปกป้องทรัพย์สินอวกาศจากภัยคุกคามเอกสารระบุว่าต้องใช้ “ภาพการดำเนินงานที่ซับซ้อนและมีข้อมูลซึ่งผู้ใช้กำหนดเอง สามารถหลอมรวมและนำเสนอข้อมูลอัจฉริยะแบบหลายแหล่งได้”
ที่มาของข่าวและภาพ : https://spacenews.com/space-force-to-spend-years-and-billions-of-dollars-to-convert-data-into-knowledge/
แปลและเรียบเรียง : ร.อ.นิตินัย อุตสาหะ