การประยุกต์ใช้หุ่นยนต์กับปัญญาประดิษฐ์ Artificial Intelligence (AI) สิ่งปกติธรรมดาแล้วในปัจจุบันสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง คือ ความสามารถของเครื่องจักรในการสร้างด้วยเทคโนโลยี 3D printing ในการสร้างอวกาศยานและโครงสร้างอาคาร เพื่อสร้างฐานบนดวงจันทร์หรือการตั้งถิ่นฐานบนดวงดาว การสร้างฐานจะช่วยทำให้มนุษย์โลกมีสามารถในการสำรวจอวกาศได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้มนุษย์มีความสามารถแบบรวมการ
ในอวกาศเพื่อลดต้นทุนในการขนทุกอย่างขึ้นไปจาก๋โลก หน่วยงานอวกาศหลายแห่งกำลังมองหาการสร้างฐานหรือการตั้งถิ่นฐานบนดวงจันทร์เพื่อสนับสนุนกิจกรรมบนดวงจันทร์และการสำรวจอวกาศอย่างต่อเนื่อง
![](http://isr.spoc.rtaf.mi.th/wp-content/uploads/2022/03/20220318-1-1024x576.jpg)
แม้ในปัจจุบันการแก้ไขปัญหาความซับซ้อนในการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์ รวมถึงการปรับแต่งและความฉลาดยังไม่เพียงพอที่จะทำให้หุ่นยนต์สามารถสร้างอวกาศยานได้ด้วยตนเองเทียบเท่ากับหุ่นยนต์ที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ในขณะที่แผนการสร้างฐานดวงจันทร์จำนวนมากประกอบด้วยขั้นตอนของหุ่นยนต์ที่สมบูรณ์เพื่อเตรียมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการมาถึงของมนุษย์ความสามารถของหุ่นยนต์ในการสร้างสารประกอบที่ซับซ้อนนั้นยังห่างไกลจากความเป็นจริง อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น เครื่องพิมพ์ 3 มิติ อุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีศักยภาพในการสร้างโมดูลในลักษณะที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ความสามารถในการพิมพ์บ้านพื้นฐานได้รับการพัฒนาขึ้นแล้วบนโลก
จากการสำรวจอวกาศที่ผ่านมา มีการค้นพบโลหะจำนวนมากที่พบบนพื้นผิวดวงจันทร์ เช่น ไทเทเนียม เหล็ก และอลูมิเนียม ซึ่งสามารถใช้สำหรับการผลิตในอวกาศได้การผลิตโครงสร้างอวกาศยานในอวกาศจะช่วยให้จรวดมีน้ำหนักเบาและราคาถูกกว่า เนื่องจากจรวดที่ผลิตบนโลกในปัจจุบันต้องการวัสดุที่แข็งแรงกว่าเพื่อทนต่อการปล่อยและแรงโน้มถ่วง ในอนาคตอาจเป็นไปได้ว่าหุ่นยนต์สามารถสร้างอวกาศยานลำอื่นได้โดยอัตโนมัติบนโลก แต่ก็มีความสำคัญเช่นกันในอวกาศ การสร้างบนอวกาศหมายถึงอวกาศยาบนดวงจันทร์ได้ประเภทใหม่ที่สามารถผลิตและออกตัวจากฐานปล่อยบนดวงดาวได้ ตัวอย่างเช่นโครงสร้างอาจใหญ่กว่ามากและรับน้ำหนักบรรทุกได้มากกว่าที่เราเห็นในปัจจุบัน ด้วยการเพิ่มขึ้นของดาวเทียมนาโน
ในโลกของการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสำรวจอวกาศนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาหุ่นยนต์ที่ไม่เพียงแค่มีความสามารถอัตโนมัติ ทำงานตามโปรแกรมหรือการควบคุมจากโลกเพียงเท่านั้นหุ่นยนต์จะต้องมีการนำระบบ AI ที่มีความฉลาดเพียงพอ สามารถตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ด้วยตัวหุ่นยนต์ด้วยเอง แต่อย่างไรก็ตามระบบควบคุมบางส่วน ยังคงพึ่งพา การนำทาง คำแนะนำ และการควบคุมสำหรับการสื่อสารการวิเคราะห์ระยะไกล เช่น เวลาเพื่อที่จะถ่ายภาพ ส่วนการตอบสนองในกรณีฉุกเฉินจะช่วยลดความเสี่ยงของภารกิจและทำให้ภารกิจของการสำรวจอวกาศคุ้มค่ามากขึ้น โดยพื้นฐานแล้วอวกาศยาน หรือหุ่นยนต์เหล่านั้นจะสามารถดูแลตัวเองและตัดสินใจแบบเรียลไทม์ โดยกระบวนการทำงาน AI จะได้รับข้อมูลสภาพแวดล้อมจากภาพและระบบเซนเซอร์ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ วิเคราะห์ แก้ไขสถานการณ์ด้วยหุ่นยนต์เองเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะไม่สามารถทำได้โดยตรงทันทีจากบนโลก เนื่องจากระยะทางที่ไกลทำให้ผู้ควบคุมบนโลกไม่สามารถติดตามสถานการณ์บนอวกาศได้ทันเวลา เมื่อการประยุกต์เทคโนโลยี AI เข้ากับหุ่นยนต์และแก้ไขขีดจำกัดด้านการสื่อสารระยะไกลได้สำเร็จ จะทำให้ภารกิจการสำรวจอวกาศมีความคุ้มค่า ลดความเสี่ยงลดโอกาสเกิดความล้มเหลวในภารกิจได้ดีมากขึ้น
ที่มา : https://www.linkedin.com/pulse/artificial-intelligence-space-exploration-andy-townsend/
https://www.youtube.com/watch?v=JNBXrhYDVgA00
https://www.nasa.gov/specials/artemis/
แปลและเรียบเรียงโดย เรืออากาศเอกยุทธนา สุพรรณกลาง