แบรด รีฟส์ ผู้อำนวยการ C4ISR นั่งซ้ายมือ ผู้แทนบริษัท Elbit America JR Reid รองประธานฝ่ายพัฒนากลยุทธ์ บริษัท General Atomics Aeronautical Systems, Inc. Luke Savoie L3Harris Technologies ณ งานประชุม Air Warfare Symposium ใน Orlando, Fla เมื่อ 4 มีนาคม พ.ศ.2565 ภาพถ่ายโดย Mike Tsukamoto นิตยสาร Air Force
ระบบเครือข่ายแบบหลายชั้นที่สามารถยืดหยุ่นได้ จะสามารถช่วยให้การสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่
และการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลแบบปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างรวดเร็ว เป็นข้อกำหนดหลักบางประการสำหรับระบบการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจทางอวกาศแบบใหม่ (Next Peer Fight) ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกล่าว ณ ที่ประชุม AFA Warfare Symposium ในเมืองออร์แลนโด มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
พลตรี Leah G. Lauderback ผู้อำนวยการ Intelligence Surveillance and Reconnaissance (ISR) ของ US Space Force ได้ขอให้คณะผู้นำอุตสาหกรรมจาก Elbit Systems of America, General Atomics Aeronautical Systems และ L3Harris Technologies อธิบายว่าสถาปัตยกรรม ISR ใหม่อาจมีหน้าตาเป็นอย่างไร การทดสอบและการได้รับการปฏิเสธในพื้นที่ความขัดแย้ง
Brad Reeves ผู้อำนวยการโซลูชัน C4I ที่ Elbit Systems of America กล่าวว่าสถาปัตยกรรม ISR ถัดไปต้องมีการประมวลผล AI เพื่อปฏิเสธเป้าหมายที่รวมศูนย์ของฝ่ายตรงข้าม เซ็นเซอร์จะต้องทำงานหลายอย่างให้คุณ รีฟส์ กล่าว พวกเขาเห็นบางสิ่งบางอย่างและเข้าใจมันและผลักดันการดำเนินการที่แนะนำมาให้เรา
Reeves ตั้งข้อสังเกตว่าเทคโนโลยีจะต้องอยู่ในสถานที่เพื่อเชื่อมต่อเซ็นเซอร์ทั้งหมดจากพื้นดิน อวกาศ และพื้นที่นั่นหมายความว่าเป็นระบบ ISR ที่สามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถของ AI เพื่อเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ และยังสามารถลดเวลากระบวนการทำงาน
Luke D. Savorie ประธาน ISR Sector ของ L3Harris กล่าวว่าบริษัทของเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับข้อกำหนดในระบบ ISR ใหม่ ซึ่งคำนึงถึงสถาปัตยกรรมอวกาศที่เผชิญกับภัยคุกคามใหม่ ๆ จากฝ่ายตรงกันข้าม
นั่นหมายถึงการลงทุนอย่างมากในด้านเซ็นเซอร์ ช่องรับแสงที่ใหญ่ขึ้นโดยใช้น้ำหนักและการใช้พลังงานน้อยลง และการเชื่อมต่อที่มากขึ้น รวมถึงระบบการบินอวกาศ เพื่อสร้างการเชื่อมต่อเพื่อรับข้อมูลจากวงโคจรของ GEO และ LEO
ที่มา https://www.airforcemag.com/isr-will-require-ai-resilient-networks-and-space-connect
แปลและเรียบเรียงโดย ร.อ.ยุทธนา สุพรรณกลาง
