ผู้ให้บริการภายถ่ายดาวเทียมและการวิเคราห์ข้อมูลในนามของ Blacksky ทำการส่งดาวเทียมจำนวน 6 ดวง สำหรับภารกิจแตกต่างกันจำนวน 3 ภารกิจ ในช่วงเวลา 30 วันที่ผ่านมา ซึ่ง ณ ปัจจุบัน มีจำนวน 12 ดวงอยู่ในวงโคจร บริษัทได้วางแผนทำการเพิ่มจำนวนดาวเทียม 2-4 ดวง ในปีหน้า ก่อนจะทำการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ดาวเทียมถ่ายภาพความละเอียดสูงต่อไป
การมีดาวเทียมถึง 12 ดวง เป็นเป้าหมายหลักของบริษัท จากการสูญเสียดาวเทียมจำนวน 2 ดวงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจากความล้มเหลวของภารกิจ Rocket Lab ทั้งนี้บริษัทเดิมวางแผนจะทำการปล่อยดาวเทียมใหม่รุ่น GEN-3 ในปี 2022 แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงไปโดยจะเริ่มนำส่งดาวเทียมใน ปี 2023 ซึ่งดาวเทียม GEN-3 จะสามารถผลิตภาพด้วยระดับความละเอียด 50 เซนติเมตร เปรียบเทียบกับรุ่นเดิม GEN-2 ที่สามารถถ่ายภาพที่ระดับความละเอียดเพียง 1 เมตร เท่านั้น
โดยแผนระยะยาวบริษัทตั้งไว้ว่าจะมีจำนวนดาวเทียมถึง 30 ดวง เพื่อรองรับความต้องการของตลาดด้านภาพถ่ายดาวเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการของข้อมูลและความเชิงลึกจากรัฐบาลและสำนักข่าวกรองสหรัฐ โดย ณ ปัจจุบัน ดาวเทียมที่มีอยู่ของบริษัท สามารถถ่ายภาพได้ที่เดิมจำนวน 15 ครั้งต่อวัน ซึ่งสามารถช่วยในการติดตามแนมโน้มเศรษฐกิจ และเฝ้าดูพื้นที่น่าสนใจสำหรับสำนักงานด้านความมั่นคงประเทศ
บริษัทฯ ได้ส่งมอบเอกสารเพื่อเข้าร่วมประมูลกับสำนักงานลาดตระเวนแห่งชาติ หรือ National Reconnaissance Office (NRO) ที่มีแผนจะมอบสัญญาในช่วงกลางปี 2022 ให้กับหลาย ๆ บริษัทที่ให้ภาพถ่ายดาวเทียม โดยผลิตภัณฑ์ที่ NRO ต้องการที่จะซื้อคือการบริการภาพแบบสั่งการได้ (Taskable Imagery) ซึ่งมีความหมายว่าลูกค้าจะสามารถสั่งการให้ดาวเทียมพาณิชย์สามารถถ่ายภาพของสถานที่เวลาที่ต้องการใด ๆ ได้
บริษัทยังคาดหวังว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายสำหรับบริการวิเคราะห์ข้อมูล ให้กับสำนักงานภูมิสารสนเทศแห่งชาติ หรือ National Geospatial Intelligence Agency (NGA) ซึ่งได้ประกาศแผนจะใช้บริการกับภาคเอกชนเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้กองทัพอวกาศสหรัฐ และสำนักพัฒนาอวกาศ (Space Development Agency : SDA) จะเป็นลูกค้าของบริษัทเช่นกัน อย่างไรก็ตามภาคอุตสาหกรรมยังคงตั้งตารอคอยสัญญานความต้องจากทางทหารอยู่
แหล่งที่มา : https://spacenews.com/%e2%80%a8blacksky-to-begin-transition-to-higher-resolution-imaging-satellites-in-2023/
แปลและเรียบเรียงโดย ร.อ.สุทธิพงษ์ โตสงวน
