ในช่วงปลายปี 2022 NASA จะทำการทดลองลงจอดไปยังขั้วโลกใต้ของดวงจันทร์บนสันเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากปล่อง Shackleton ซึ่งเป็นวิศวกรสถานที่และนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการประเมินเป็นเวลาหลายเดือน NASA และ Intuitive Machines ประกาศการเลือกสถานที่ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564
ข้อมูลของ NASA จากยานอวกาศที่โคจรรอบดวงจันทร์ระบุตำแหน่งนี้ ซึ่งเรียกว่า “สันเขาที่เชื่อมต่อ Shackleton” อาจมีน้ำแข็งอยู่ใต้พื้นผิว พื้นที่นี้ได้รับแสงแดดเพียงพอในการส่งพลังงานให้กับยานลงจอดสำหรับภารกิจ 10 วันโดยประมาณ ในขณะที่พื้นที่นั้นยังให้แสงสว่างที่ชัดเจนซึ่งดีสำหรับการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับปล่องขนาดเล็กซึ่งเหมาะสำหรับการสำรวจของหุ่นยนต์
เงื่อนไขเหล่านี้ให้โอกาสที่ดีที่สุดที่จะประสบความสำเร็จในการสาธิตเทคโนโลยีทั้งสาม ซึ่งรวมถึง Polar Resources Ice-Mining Experiment-1 ( PRIME-1 ) ที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก NASA ซึ่งประกอบด้วยสว่านที่จับคู่กับแมสสเปกโตรมิเตอร์ ซึ่งเป็นเครือข่ายการสื่อสาร 4G/LTE ที่พัฒนาโดย Nokia of America Corporation และ Micro-Nova หุ่นยนต์กระโดดที่ปรับใช้ได้ซึ่งพัฒนาโดย Intuitive Machines
Dr. Jackie Quinn ผู้จัดการโครงการ PRIME-1 ของ NASA Kennedy กล่าวว่า “PRIME-1 ติดอยู่กับเครื่องลงจอด Nova-C ของ Intuitive Machines อย่างถาวร และการหาตำแหน่งลงจอดที่เราอาจค้นพบน้ำแข็งภายในระยะ 3 ฟุตจากพื้นผิวนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย ศูนย์อวกาศในฟลอริดา “ในขณะที่มีแสงแดดเพียงพอในการจ่ายพลังงาน แต่พื้นผิวก็อุ่นเกินกว่าจะรักษาน้ำแข็งไว้ได้ภายในระยะที่สว่าน PRIME-1 เอื้อมถึง เราจำเป็นต้องหาไซต์ “โกลดิล็อคส์” ที่ได้รับแสงแดดเพียงพอเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของภารกิจ ในขณะเดียวกันก็เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยในการลงจอดด้วยและดีต่อการสื่อสารกลับมาที่โลกอีกด้วย”
ในการเลือกตำแหน่งลงจอดสุดท้ายนี้ ผู้เชี่ยวชาญจาก NASA, Arizona State University, Johns Hopkins Applied Physics Lab, Nokia และ Intuitive Machines ได้สร้างแผนที่ “การขุดน้ำแข็ง” ของพื้นผิวดวงจันทร์โดยใช้ข้อมูลการสำรวจระยะไกลของดวงจันทร์ หลังจากลงจอด สว่าน PRIME-1 หรือที่รู้จักในชื่อ The Regolith Ice Drill for Exploring New Terrain (TRIDENT) จะพยายามเจาะลึกถึงสามฟุต เพื่อนำดินบนดวงจันทร์ที่เรียกว่าเรโกลิธออกมา และวางไว้บนพื้นผิวสำหรับการวิเคราะห์น้ำ เครื่องมืออื่นของ PRIME-1 คือ Mass Spectrometer ที่สังเกตการทำงานของดวงจันทร์ (MSolo) จะวัดก๊าซระเหยที่หลุดออกจากวัสดุที่ขุดโดย TRIDENT ได้อย่างง่ายดาย
PRIME-1 จะเป็นการสาธิตครั้งแรกในการค้นหาและเก็บทรัพยากรบนดวงจันทร์ การพัฒนาเทคโนโลยีประเภทนี้มีความสำคัญต่อการสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาวในห้วงอวกาศ รวมถึงที่ดวงจันทร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ Artemis ของหน่วยงาน การใช้งานและเจาะพื้นผิวดวงจันทร์อันแข็งแกร่งจะช่วยให้วิศวกรได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าสำหรับภารกิจบนดวงจันทร์ในอนาคต เช่น Volatiles Investigating Polar Exploration Rover หรือ VIPER ซึ่งจะกำหนดจะลงจอดที่ขั้วโลกใต้ของดวงจันทร์ในปลายปี 2566
ในขณะที่ PRIME-1 จะตรวจสอบทรัพยากรที่อยู่ใต้พื้นผิวดวงจันทร์ NOKIA จะทำการทดสอบเครือข่าย 4G/LTE ที่มีพื้นที่แข็ง รถแลนด์โรเวอร์ขนาดเล็กที่พัฒนาโดย Lunar Outpost จะเสี่ยงภัยห่างจากยานลงจอด Nova-C มากกว่าหนึ่งไมล์ และทดสอบเครือข่ายไร้สายของ Nokia ในระยะทางต่างๆ รถแลนด์โรเวอร์จะสื่อสารกับสถานีฐานที่ตั้งอยู่บน Nova-C และยานลงจอดจะสื่อสารข้อมูลกลับมายังโลก การสาธิตนี้สามารถปูทางสำหรับระบบ 4G/LTE เชิงพาณิชย์สำหรับการสื่อสารที่สำคัญต่อภารกิจบนพื้นผิวดวงจันทร์ ซึ่งรวมถึงการสื่อสารและแม้แต่การสตรีมวิดีโอความละเอียดสูงจากนักบินอวกาศไปยังสถานีฐาน และอื่นๆ
Niki Werkheiser ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีของ NASA Space Technology Mission Directorate (STMD) ที่สำนักงานใหญ่ NASA กล่าวว่า “การสาธิตเทคโนโลยีในช่วงแรกเหล่านี้ใช้ความร่วมมือที่เป็นนวัตกรรมเพื่อให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับการปฏิบัติงานและการสำรวจพื้นผิวดวงจันทร์ “ข้อมูลจะแจ้งการออกแบบสำหรับการใช้ทรัพยากรในสถานที่ในอนาคต ความคล่องตัว การสื่อสาร พลังงาน และความสามารถ”
ที่มา : https://www.nasa.gov/feature/nasa-intuitive-machines-announce-landing-site-location-for-lunar-drill
แปลและเรียบเรียง : จ.ต.จิรวัฒ พลานุสนธิ์
