บริษัท Arianespace ได้ประกาศความสำเร็จของจรวด Ariane 5 ที่ได้ทำการนำส่งดาวเทียมสองดวง ได้แก่ดาวเทียม SES-17 และ Syracuse-4A ไปยังวงโคจรที่ได้วางแผนเอาไว้ เมื่อเวลา 2310 ของ 23 ต.ค.64 ตามเวลาท้องถิ่นของฐานปล่อยจรวด ณ เฟรนช์เกียนา ด้านนายดาเนียล เดอ ชามบัวร์ (Daniel de Chambure) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการดังกล่าว เปิดเผยว่า การนำส่งครั้งที่ผ่านมานั้น ทางบริษัทได้ทำการเพิ่มขนาดความยาวของฝาครอบจรวดส่วนที่ทำการบรรทุก Payload (Fairing) เพิ่มอีก 1.5 เมตร เพื่อที่จะทำให้จรวดมีปริมาตรบรรทุกให้เพียงพอสำหรับนำส่งดาวเทียมขนาดใหญ่สองดวง ซึ่งมีน้ำหนัก Payload รวมกันมากถึง 11.2 ตัน ไปยัง Geostationary Transfer Orbit ซึ่งเป็นวงโคจรที่ใช้ในการนำ Payload เข้าสู่วงโคจรค้างฟ้า
ดาวเทียม SES-17 ซึ่งมีน้ำหนัก 6,411 กิโลกรัมจะถูกบรรจุอยู่ส่วนบนของ Fairing และได้รับการปล่อยออกจากจรวดก่อน โดยดาวเทียมดวงดังกล่าวเป็นดาวเทียมของบริษัท SES ซึ่งจะเป็นดาวเทียมสื่อสารสำหรับช่วยอำนวยความสะดวกในอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ ที่มีรัศมีการทำงานครอบคลุมพื้นที่บริเวณทวีปอเมริกา บริเวณแถบแคริบเบียนและมหาสมุทรแอตแลนติก
โดยหลังจากที่ดาวเทียม SES-17 ได้รับการปล่อยแล้ว ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมของจรวด Ariane ก็จะส่งคำสั่งให้ทำการปล่อยดาวเทียม Syracuse-4A ในอีก 2 นาทีตามหลัง ซึ่งดาวเทียมดวงนี้ เป็นดาวเทียมของกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำหรับระบบสื่อสารของกองทัพฝรั่งเศสและนาโต้ในอนาคต
ทั้งนี้ ดาวเทียมทั้งสองดวงถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานรวมทั้งสิ้น 15 ปี โดยน้ำหนักบรรทุกที่จรวด Ariane 5 จะต้องนำส่ง คือ 11,210 กิโลกรัม ซึ่งประกอบไปด้วย น้ำหนักของดาวเทียมทั้งสองดวงรวมกัน 10,264 กิโลกรัม และนำหนักส่วนโครงสร้างอื่น ๆ อีก 964 กิโลกรัม
ด้านนายดาเนียล นอยเอนชวานเดอร์ (Daniel Neuenschwander) ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขนส่งทางอวกาศขององค์การอวกาศยุโรป หรือ ESA ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า จรวด Ariane 5 ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเพิ่มน้ำหนักบรรทุกในทุก ๆ การนำส่ง ตั้งแต่เที่ยวการนำส่ง VA255 ในวันนี้ และ VA254 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเตรียมการนำส่งกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope) ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้อีกด้วย
แปลและเรียบเรียง : ร.อ.ณัฐดนัย วิศิษฏ์โยธิน