![](http://isr.spoc.rtaf.mi.th/wp-content/uploads/2021/10/Transport-Layer.png)
Derek Tournear ผู้อำนวยการองค์กรพัฒนากิจการอวกาศ (Space Development Agency, SDA) สหรัฐอเมริกาได้กล่าวเรื่องความต้องการปรับปรุงสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกลุ่มวงโคจรดาวเทียมสื่อสาร Transport Layer Tranche 1 ในที่การประชุมออนไลน์ DefenseOne โดยเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่จะนำส่งดาวเทียม 144 ดวง เป็น 126 ดวง และจัดชุดนำส่งดาวเทียม 6 ชุด ชุดละ 24 ดวง เป็นชุดละ 21 ดวง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้องค์กรได้เลื่อนกำหนดการส่งร่างสัญญาโครงการนี้จนถึงวันที่ 8 ต.ค.64
สัญญาจัดซื้อจัดจ้างเดิมได้กำหนดความต้องการดาวเทียมสื่อสารขั้นต่ำ 126 ดวงที่จะนำส่งในปี พ.ศ.2567 และเพิ่มเติมการนำส่งดาวเทียมในโครงการ Partner Payload Program หรือ P3 อีก 18 ดวง ซึ่งมีดาวเทียมในโครงการ P3 จำนวน 6 ดวงจะบรรจุ Payload ขององค์กรภาครัฐของสหรัฐได้แก่ หน่วยงานวิจัยของกองทัพอากาศสหรัฐและกองทัพบกสหรัฐ ซึ่งองค์กรพัฒนากิจการอวกาศได้นำโครงการ P3 นี้แยกออกจากการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ โดยจะดำเนินการในภายหลัง และได้ปรับลดปริมาณดาวเทียมที่จะนำส่งของโครงการกลุ่งวงโคจรดาวเทียมนี้ ซึ่งทางองค์กรได้ชี้แจงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงสัญญานี้ เพราะการบรรจุดาวเทียมชุดละ 24 ดวงนั้น มีขนาดใหญ่จนเป็นไปได้ยากในการหาบริษัทนำส่งที่สามารถส่งได้ เมื่อเทียบกับขนาด Payload ของจรวด Falcon 9 บริษัท SpaceX ที่ไม่สามารถรองรับการบรรจุได้
โครงการ Transport Layer Tranche 1 เป็นโครงการทดลองดาวเทียมสื่อสารของรัฐบาลสหรัฐในการสร้างกลุ่มวงโคจรดาวเทียมขนาดเล็ก ของวงโคจรระดับต่ำ (Low Earth Orbit, LEO) ซึ่งโครงการนำร่องก่อนหน้านี้เตรียมได้เตรียมนำส่งดาวเทียมจำนวน 28 ดวง กำหนดการในปี 2565 ถึง 2566 โดยบริษัท SpaceX และสัญญาจัดซื้อจัดจ้างปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาโครงการ
แปลและเรียบเรียง: ร.ท.กันต์ จุลทะกาญจน์
ที่มาของภาพและข่าว: https://spacenews.com/space-development-agency-revises-transport-layer-procurement-with-fewer-satellites-per-launch/