ปัจจัยหนึ่งซึ่งถือเป็นของความมั่นคงของประเทศชาติคือ การมีกองทัพไว้ปกป้องดินแดนยามมีผู้รุกราน เพื่อหวังแย่งชิงดินแดน หรือทรัพยากรของประเทศ โดยกองทัพที่แต่ละประเทศนั้นมีหลักๆ มีด้วยกัน 3 เหล่าทัพ คือ กองทัพบก, กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ แต่เมื่อไม่นานมานี้ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ก่อตั้งกองทัพใหม่มีชื่อว่า “กองทัพอวกาศ” US Space Force (USSF) หลายๆท่านคงคำถามขึ้นในใจว่าเหตุใดประเทศสหรัฐฯ ถึงได้ก่อตั้งกองทัพอวกาศขึ้น ทั้งที่ประเทศมีกองทัพที่ยิ่งใหญ่และมีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดชาติหนึ่งของโลก
บทความนี้แปลและเรียบเรียงจาก Space Capstone Publication Space Power Doctrine For Space Force ซึ่งเป็นเอกสารที่กล่าวถึงหลักการหรือแนวทางปฏิบัติที่สำคัญ ในการปฏิบัติการทางอวกาศของกองทัพอวกาศสหรัฐฯ ซึ่งพูดถึงทฤษฎีเกี่ยวกับกำลังทางอวกาศ เพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจได้ทราบถึงแนวคิดเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางอวกาศ ของประเทศสหรัฐฯ รวมไปถึงได้นำแนวคิดที่ได้จากบทความนี้ไปใช้ต่อยอดในการปฏิบัติการทางอวกาศ ต่อไป
![](http://isr.spoc.rtaf.mi.th/wp-content/uploads/2021/08/20210824-1-1.jpg)
ดวงตาของโลกมองไปในห้วงอวกาศ เพื่อมองดูดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลออกไป ซึ่งเราได้ปฏิญาณไว้ว่าจะไม่เห็นมันถูกปกครองด้วยธงของศัตรู แต่ด้วยธงแห่งสันติภาพและเสรีภาพ
อารัมภบท
เพื่อเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการเปิดตัวยานอวกาศสปุตนิก 1 ของสหภาพโซเวียต ผู้ริเริ่มบุกเบิกในกองทัพสหรัฐฯ ได้จัดลำดับเหตุการณ์สำคัญ (Timeline) ที่จะขับเคลื่อนสถานะของอเมริกาในฐานะชาติที่เป็นผู้นำด้านอวกาศ การยิงนำส่งอวกาศยานของกองทัพสหรัฐฯ ที่ชื่อว่า Explorer 1 จากสถานีกองทัพอากาศ Cape Canaveral เมื่อวันที่ 31 มกราคม 1958 ซึ่งเป็นอวกาศยานอเมริกันลำแรกที่โคจรรอบโลก สองเดือนต่อมากองทัพเรือสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการสาธิตการโคจรของอวกาศยาน Vanguard 1 ซึ่งเป็นอวกาศยานพลังงานแสงอาทิตย์ลำแรก และในปีเดียวกันนั้นเอง สำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูง ประสบความสำเร็จในการสาธิตการยิงนำส่งอวกาศยานสื่อสารครั้งแรกของโลก เหตุการณ์สำคัญเหล่านี้เป็นการปูทางสำหรับ Project Corona ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศสหรัฐฯ และ สำนักงานข่าวกรองกลาง (Central Intelligence Agency: CIA) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 1960 ได้นำส่งอวกาศยาน Discoverer 14 โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Project Corona และได้ทำการส่งภาพการเฝ้าระวังกว่า 1,650,000 ตารางไมล์ของอาณาเขตของสหภาพโซเวียตกลับมา ด้วยความสำเร็จที่ต่อเนื่องกันเหล่านี้ กองทัพสหรัฐฯ ได้กำหนดให้มนุษยชาติสามารถควบคุมและใช้ประโยชน์จากพื้นที่เพื่อแสวงหาความมั่งคั่งและความปลอดภัย นับตั้งแต่เหตุการณ์สำคัญในช่วงแรกๆ เหล่านี้ กองทัพสหรัฐฯ อันประกอบไปด้วย กองทัพบก, กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ต่างก็พัฒนาขีดความสามารถด้านอวกาศที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังอำนาจทางพื้นดิน ทางทะเล ทางอากาศ และทางไซเบอร์ตามลำดับ บริบทการกระจายอำนาจเหล่านี้หล่อหลอมความคิดของกองทัพสหรัฐฯ เกี่ยวกับอวกาศในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา โครงสร้างผลงานของสถาบันนี้คือทฤษฎี และหลักคำสอนทางการทหารในปัจจุบันที่มุ่งเน้นไปในเรื่องอวกาศโดยเฉพาะ ในฐานะเป็นส่วนเสริมของอำนาจทางการทหารรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งไม่ต้องจับพื้นที่ที่มีผลกระทบโดยตรงและเป็นอิสระต่อความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงของสหรัฐ หลักคำสอนที่นำเสนอในตอนต่อๆ ไป เพื่อเป็นการยกระดับอำนาจอวกาศให้เป็นสูตรอำนาจทางการทหารที่เด่นชัดเทียบเท่ากับอำนาจทางบก ทางทะเล ทางอากาศ และทางไซเบอร์
— จบ ตอนที่ 1 —
ที่มา
https://www.spaceforce.mil/
https://www.spoc.spaceforce.mil/Portals/4/Documents/USSF%20Publications/Space%20Capstone%20Publication_10%20Aug%202020.pdf?ver=q2cbzItvov2XnEQbtlztOg%3d%3d
เรียบเรียงโดย : ร.อ.นิตินัย อุตสาหะ